บทความน่ารู้
- สิ่งควรทราบหลังจากซื้อกระเบื้อง
- ข้อควรรู้เกี่ยวกับกระเบื้อง
- วิธีการปูกระเบื้องแกรนิตโต้
- วิธีการทำความสะอาดพื้นกระเบื้อง
- ตรวจสอบสินค้าทุกครั้งเมื่อมีการส่งมอบ รหัสสินค้า เฉดสี จำนวน ความโก่งงอ ถูกต้องตามที่ตกลงสั่งซื้อหรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทันที
- ควรปูกระเบื้องเว้นร่องยาแนว 2-3 มม. ตามค่ามาตรฐานของโรงงานผู้ผลิต
- ควรปูกระเบื้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยสังเกตจากลูกศรด้านหลังกระเบื้อง
- ในกรณีกระเบื้องโก่งงอ บริษัทฯจะทำการตรวจสอบ โดยอุปกรณ์หากค่าความโก่งเกิน 0.5 มม. จะทำการเปลี่ยนสินค้าให้ตามจำนวนที่กล่องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เท่านั้น
- การส่งมอบสินค้าหากสถานที่ส่งมีจำนวนหลายชั้น จะจัดส่งให้ที่ชั้น 1 หรือชั้นที่ลูกค้าระบุหากรถขนส่งสามารถวิ่งขึ้นไปส่งได้ จัดส่งให้บริเวณด้านหน้าประตูหรือจุดส่งของที่ลูกคาเตรียมไว้ให้โดยจะไม่ขนลากเข้าไปบริเวณด้านใน
กระเบื้องแกรนิต
เป็นกระเบื้องที่มี % การดูดซึมน้ำต่ำมาก(มีผู้ผลิตบางราย สามารถพูดได้ว่าไม่ดูดซึมน้ำเลย) มีความแข็งแรงสูงเนื้อผลิตภัณฑ์เป็น Porcelain มีค่าเรียกกระเบื้องชนิดนี้อยู่หลายคำอาทิเช่น Homogeneous tile,Granite tile,Granito tile,Porcelain tile ซึ่งทั้งหมดเป็นค่าเรียกกระเบื้องทีมีการผลิตเลียนแบบหินธรรมชาติ โดยการนำเอาสีเซรามิคเข้ามาผสมกับเนื้อดินเพื่อให้เกิดสีขึ้นในเนื้อดิน เทคโนโลยีเริ่มต้นเมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อน เริ่มจากการพยายามผลิตกระเบื้องให้มีลักษณะและสีสันใกล้เคียงกับหินแกรนิตธรรมชาติ มีทั้งแบบไม่ขัดผิวหน้า และขัดพื้นผิวให้มีความมันเหมือนในการขัดหินแกรนิต ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของเครื่องจักร ส่วนของเทคนิคการผลิต การตกแต่งลวดลาย ทำใหสามารถผลิตกระเบื้องที่เลียนแบบธรรมชาติได้แทบทุกชนิค ทั้งสีสันและลวดลายจนบางครั้งเราแทบไม่อาจจะแยกได้ว่าแผ่นไหนเป็นกระเบื้องที่มนุษย์ผลิตหรือแผ่นไหนเป็นหินที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมา
เนื่องจากกระเบื้องแกรนิตได้มีการนำสีเซรามิคใส่ผสมลงไปกับเนื้อดินเลยทำให้กระเบื้องทั้งแผ่นมีสีเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อใช้กระเบื้องไปนานๆจนเกิดการขัดสีหรือการกร่อนของผิวหน้ากระเบื้องก็ยังจะไม่เกิดปัญหาเหมือนกับกระเบื้องที่ใช้การเคลือบผิวเพราะเมื่อผิวหน้าด้านบนสึกไปด้านล่างก็ยังคงมีสีเช่นเดียวกันกับพื้นด้านบน แต่สำหรับกระเบื้องแกรนิตที่ผ่านการขัดผิวจนมันเงาแล้วอาจพบปัญหาผิวหน้าหมองและด้านขึ้นเมื่อใช้ไปนานๆได้
กระเบื้องเคลือบเนื้อแกรนิต
มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับกระเบื่องแกรนิต ทั้งในเรื่อง % การดูดซึมน้ำ,ความแข็งแรง แต่ที่ผิวหน้ามีการเคลือบสีและตกแต่งลวดลายเพื่อให้เกิดความสวยงามทั้งช่วยปรับปรุงคุณสมบัติด้านการขัดสี,การขูดขีด ให้มีความทนทานด้วย เคลือบที่ใช้กับกระเบื้องแกรนิตนั้นมักจะเป็นเคลือบทีมีความทนทานทั้งกับสารเคมีและการขัดสีจึงสามารถใช้กระเบื้องชนิดนี้ได้ทุกพื้นที่รวมทั้งภายในอาคารและสถานที่สาธารณะต่างๆที่มีผู้คนสัญจรไปมาเป็นจำนวนมาก
กระเบื้องชนิดนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในประเทศแถบยุโรปและอเมริกาที่มีอากาศหนาวเย็น ที่อุณหภูมิในช่วงฤดูหนาวจะต่ำกว่าจุดเยือกแข็งจนทำให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งถ้ากระเบื้องมี % การดูดซึมน้ำสุงก็จะพบปัญหาน้ำที่อยุ่ตามรูพรุนกลายเป็นน้ำแข็งและมีปริมาณมากอาจทำให้กระเบื้องแตกได้เนื่องจากการขยายตัวของน้ำแข็ง เราเรียกคุณสมบัติที่สามารถทนทานต่อการเปลื่ยนแปลงของสภาพอากาศที่อุณหภุมิต่ำมากนี้ว่า Frost resistanec
คุณสมบัติที่สำคัญของกระเบื้องแกรนิต
- %การดูดซึมน้ำ,น้ำมันจะต่ำมาก เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกระเบื้องชนิดนี้ต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ได้ในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นด้านในอาคาร ด้านนอกอาคาร ที่จอดรถ สถานที่สาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่านโดยเฉพาะกระเบื้องที่ผ่านการขัดมันมาแล้ว ซึ่งจะมีโอกาสทำให้ฝุ่นละออง,สิ่งสกปรก,คราบน้ำมัน เข้าไปแทรกอยู่ภายในรูพรุนเหล่านั้นได้ ถ้าเราสามารถผลิตกระเบื้องที่มีรูพรุนน้อยที่สุดหรือปราศจากรูพรุนเลยก็จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้
- ความแข็งแรงสูง เนื่องจากวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถให้เป็นทางเลือกในการนำไปปูพื้นที่จอดรถ พื้นทางเดิน ทางเข้าบ้าน ซึ่งจะต้องรับแรงกดมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีความแข็งแรงที่สูงเพียงพอ
- ขนาดของกระเบื้องที่ผ่านการตัดขอบและผ่านการขัดแล้ว จะต้องมีขนาดใกล้เคียงกันมาก ซึ่งจะช่วยให้การปูกระเบื้องปูได้ 2-3 มิลลิเมตร จนแทบมองไม่เห็นรอยยาแนวเลย ซึ่งจะทำให้เกิดความสวยงามและดูเหมือนการปูหินธรรมชาติมาก
ข้อดีของกระเบื้องแกรนิตเมื่อเปรียบเทียบกับหินธรรมชาติ(เช่นหินอ่อน,หินแกรนิต)
- มีความแข็งแรงมากกว่า โดยเฉพาะการรับแรงกดของกระเบื้องมีค่าสูงกว่าหินธรรมชาติ
- สามารถควบคุมเฉดสีได้ดีกว่า ซึ่งจะทำให้มีสีที่กลมกลืนกว่าหินธรรมชาติ มีสีสันและลวดลายให้เลือกมากมายตามที่ลูกค้าต้องการ
- น้ำหนักต่อแผ่นจะเบากว่า เนื่องจากสามารถทำให้มีความหนาน้อยกว่าหินธรรมชาติ
- ราคาถูกกว่าหินธรรมชาติ โดยเฉพาะสีพิเศษบางสีเช่นสีดำ สีแดงเลือดนกซึ่งแหล่งหินธรรมชาติในเมืองไทยไม่มีหินเหล่านี้ จำเป็นต้องสั่งซื้อมาจากต่างประเทศดังนั้นราคาจึงสูงขึ้นมาก
- ช่างปูกระเบื้องสามารถปูได้ง่ายกว่าการปูหินธรรมชาติ การตัดสามารถใช้เครื่องมือปกติที่ใช้ตัดกระเบื้องทั่วๆไปได้
วิธีการปูกระเบื้องมีหลายวิธี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นผิวที่จะติดตั้ง และความชำนาญของช่างที่จะติดตั้งด้วยซึ่งวิธีการหลักๆมี2วิธี
- การติดตั้งโดยใช้ปูนทราย(MORTAR) เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ยังไม่ได้ทำการปรับระดับ และ ขัดมัน
1.1 ตรวจสอบกระเบื้องก่อนทำการปู ตรวจเช็คชนิดของกระเบื้อง สีของกระเบื้องสีเดียวกันหรือไม่ ความโก่งอยู่ในค่าที่สามารถปูได้หรือไม่ หากพบสิ่งที่ผิดปกติให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทันที
1.2 ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะทำการปูกระเบื้อง
1.3 ควรปูกระเบื้องเว้นร่องยาแนว 2-3 มม.ตามค่ามาตรฐานของโรงงานผู้ผลิต
1.4 ควรปูกระเบื้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยสังเกตจากลูกศรด้านหลังกระเบื้อง
1.5 ตรวจเช็คระดับโดยให้มีความหนาสำหรับเทส่วนผสมของปูนทราย(MORTAR)เพื่อปูกระเบื้องอยู่ระหว่าง3-5ซม. (ไม่รวมความหนาของกระเบื้อง) ถ้ามากหรือน้อยกว่าให้ทำการแก้ไข (ความหน้าของปูนทราย อาจเปลี่ยนแปลงตามข้อจำกัดของพื้นที่ ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของช่างปูกระเบื้อง)
1.6 ผสมปูนทรายน้ำในอัตราส่วนน้ำ 1 ลิตร ปูน 4 กิโลกรัม และทราย 8-10 กิโลกรัม (ปริมาณน้ำสามารถปรับลดได้หากทรายมีความชื้นมาก)
1.7 นำส่วนผสมดังกล่าวเทลงบนพื้นที่จะติดตั้งกระเบื้องทำการปรับให้ได้ระดับก่อนที่จะนำกระเบื้องลงติดตั้ง
1.8 ปูตามแนวลูกศร ควรปูกระเบื้องไปในทิศทางเดียวกัน ตามแนวลูกศร หรือ สัญลักษณ์โลโก้ด้านหลังของกระเบื้องใช้กาวซีเมนต์ผสมน้ำทาบนหลังกระเบื้อง หรือใช้น้ำยาประสานปูนทาบนหลังกระเบื้อง ยกกระเบื้องวางบนปูนที่เตรียมไว้ใช้ค้อนยางเคาะเบาๆ ให้ได้ระดับ
1.9 ทำการจัดวางแผ่นกระเบื้องและแนวรอยต่อให้อยู่ในแนวเดียวกันเว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 2-3ซม.(ควรใช้ Spacer อุปกรณ์จัดแนวกระเบื้อง)เมื่อปูทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิ้งให้ปูนเซ็ทตัวประมาณ 72 ชั่วโมง ก่อนทำการยาแนว
1.10 หลังปูนเซ็ทตัวให้ทำการยาแนวเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกค้างตามร่องกระเบื้อง โดยทำความสะอาดรอยต่อของกระเบื้องด้วยการใช้เหล็กแหลมหรือแปรงแข็ง ต่อจากนั้นให้ใช้วัสดุยาแนวอัดให้เต็มแน่นเพื่อไม่ให้มีฟองและโพรงอากาศ หากมีเศษยาแนวล้นออกมาให้เช็ดออกด้วยผ้าหมาดๆก่อนที่ปูนยาแนวจะแข็งตัวข้อควรระวัง
– ไม่ควรติดตั้งกระเบื้องโดยวิธีแบบซาลาเปา หรือปูนเปียก เนื้องจากกระเบื้องมีน้ำหนักมากอาจทำให้เกิดการยุบตัวไม่เท่ากัน และ มีโพรงอากาศเป็นช่องว่างใต้พื้นกระเบื้องมีผลทำให้กระเบื้องหลุดร่อน และ แตกง่ายหมายเหตุ
– ส่วนผสมของปูน MOTAR ซีเมนต์กาว น้ำยาประสานปูน และ วัสดุยาแนว โปรดสอบถามบริษัทผู้ผลิตเพื่อป้องกันการผิดพลาดภายหลัง
– เพื่อรักษาความสวยงามของกระเบื้องหลังทำการติดตั้งเสร็จควรคลุมด้วยพลาสติก หรือ กระดาษลูกฟูก เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและคราบสกปรก
– ก่อนเปิดใช้งานควรทำความสะอาดคราบ(WAX) โดยใช้ผงขัดแวกซ์ ปูนขาว หรือผงยิปซั่ม ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลาง ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรดต่างๆเช่น กรดไฮคลอริก(กรดเกลือ)กรดไนตริก(กรดดินประสิว)กรดซัลฟิวริก(กรดกำมะถัน)กรดไฮฟลูออริก(กรดกัดกระจก)และไม่ควรใช้สารเคมีประเภทไอโซโพรพิล(แอลกอฮอลล์)ในการทำความสะอาด - การติดตั้งโดยใช้กาวซีเมนต์
เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สะดวกรวดเร็ว เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ปรับระดับเรียบร้อยแล้วเพราะกาวซีเมนต์ก็คือส่วนประกบของปูนซีเมนต์ปอร์คแลนด์ ทราย และวัสดุผสมพิเศษอื่นๆ
2.1 ตรวจสอบกระเบื้องก่อนทำการปู ตรวจเช็คชนิคของกระเบื้อง สีของกระเบื้องสีเดียวกันหรือไม่ ความโก่งอยู่ในค่าที่สามารถปูได้หรือไม่ หากพบสิ่งที่ผิดปกติให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทันที
2.2 ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะทำการปูกระเบื้อง
2.3 ควรปูกระเบื้องเว้นร่องยาแนว 2-3 มม.ตามค่ามาตรฐานของโรงงานผู้ผลิต
2.4 ควรปูกระเบื้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยสังเกตจากลูกศรด้านหลังกระเบื้อง
2.5 ตรวจเช็คระดับพื้นที่ที่จะทำการปูกระเบื้องให้ได้ระดับตามความต้องการ ถ้ามากกว่าหรือน้อยกว่าให้ทำการแก้ไข
2.6 ผสมกาวซีเมนต์ตามส่วนและวิธีของผู้ผลิตกาวซีเมนต์ โดยทั่วไป กาวซีเมนต์ 1 ถุง(15-20kg)ต่อน้ำ 3-5ลิตรแล้วแต่ละตราผลิตภัณฑ์ระบุ
2.7 เทกาวซีเมนต์ลงบนพื้นให้เพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะติดตั้ง ใช้เกรียงหวีฟันปลาปาดให้เป็นร่องให้ทั่วรวมถึงบริเวณหลังแผ่นกระเบื้องที่จะติดตั้งด้วย(เบอร์ของหวี แล้วแต่รุ่น ยี่ห้อ กาวซีเมนต์ที่ใช้)จากนั้นนำกระเบื้องปูลงบนกาวซีเมนต์โดยปูตามแนวลูกศรหลังกระเบื้อง เคาะด้วยค้อนยางเบาๆเพื่อให้ได้ระดับ
2.8 ทำการจัดงานแผ่นกระเบื้องและแนวร่องรอยต่อให้อยู่ในแนวเดียวกัน โดยมีร่องระหว่างรอยต่อ 2-3มม.เมื่อวางแผ่นกระเบื้องเต็มพื้นที่แล้ว ควรปล่อยให้กาวซีเมนต์เซ็ทตัว(ตามกำหนดระยะเวลาของกาวซีเมนต์ที่เลือกใช้)โดยในระหว่างนี้ควรทำความสะอาดกระเบื้องแล้วป้องกันด้วยแผ่นพลาสติก POLYGENE SHEETและกระดาษลูกฟูกหรือไม้อัดตามแต่สภาพหน้างาน เพื่อให้การก่อสร้างส่วนอื่นๆสามารถทำต่อไปได้โดยพื้นผิวไม่เสียหาย
2.9 หลังปูนเซ็ทตัวให้ทำการยาแนวเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกค้างตามร่องกระเบื้อง โดยทำความสะอาดรอยต่อของกระเบื้องด้วยการใช้เหล็กแหลมหรือแปรงแข็ง ต่อจากนั้นให้ใช้วัสดุยาแนวอัดให้เต็มแน่นเพื่อไม่ให้มีฟองและโพรงอากาศ หากมีเศษยาแนวล้นออกมาให้เช็ดออกด้วยผ้าหมาดๆก่อนที่จะปูนยาแนวจะแข็งตัว
หมายเหตุ
– การใช้กาวซีเมนต์ควรทำตามวิธีของบริษัท ผู้ผลิตแต่ละยีห้อเท่านั้น โดยสอบถามและศึกษาวิธีใช้ของผู้ผลิตนั้นๆและควรสังเกตุว่ากาวซีเมนต์ที่เลือกใช้หมดอายุหรือยัง โดยปกติกาวซีเมนต์จะมีอายุประมาณ 3 เดือนนับจากวันที่ผลิต การใช้กาวซีเมนต์ที่หมดอายุ อาจจะทำให้กระเบื้องที่ติดตั้งหลุดร่อนได้ในภายหลัง
– ก่อนเปิดใช้งานควรทำความสะอาดคราบ(WAX)โดยใช้ผงขัดแวกซ์ ปูนขาว หรือผงยิปซั่ม ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลาง ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรดต่างๆเช่น กรดไฮคลอริก(กรดเกลือ)กรดไนตริก(กรดดินประสิว)กรดซัลฟิวริก(กรดกำมะถัน)กรดไฮฟลูออริก(กรดกัดกระจก)และไม่ควรใช้สารเคมีประเภทไอโซโพรพิล(แอลกอออลล์)ในการทำความสะอาด - วว1.1 ตรวจสอบกระเบื้องก่อนทำการปู ตรวจเช็คชนิดของกระเบื้อง สีของกระเบื้องสีเดียวกันหรือไม่ ความโก่งอยู่ในค่าที่สามารถปูได้หรือไม่ หากพบสิ่งที่ผิดปกติให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทันที
1.2 ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะทำการปูกระเบื้อง
1.3 ควรปูกระเบื้องเว้นร่องยาแนว 2-3 มม.ตามค่ามาตรฐานของโรงงานผู้ผลิต
1.4 ควรปูกระเบื้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยสังเกตจากลูกศรด้านหลังกระเบื้อง
1.5 ตรวจเช็คระดับโดยให้มีความหนาสำหรับเทส่วนผสมของปูนทราย(MORTAR)เพื่อปูกระเบื้องอยู่ระหว่าง3-5ซม. (ไม่รวมความหนาของกระเบื้อง) ถ้ามากหรือน้อยกว่าให้ทำการแก้ไข (ความหน้าของปูนทราย อาจเปลี่ยนแปลงตามข้อจำกัดของพื้นที่ ซึ่งอยู่ในดุลพินิจของช่างปูกระเบื้อง)
1.6 ผสมปูนทรายน้ำในอัตราส่วนน้ำ 1 ลิตร ปูน 4 กิโลกรัม และทราย 8-10 กิโลกรัม (ปริมาณน้ำสามารถปรับลดได้หากทรายมีความชื้นมาก)
1.7 นำส่วนผสมดังกล่าวเทลงบนพื้นที่จะติดตั้งกระเบื้องทำการปรับให้ได้ระดับก่อนที่จะนำกระเบื้องลงติดตั้ง
1.8 ปูตามแนวลูกศร ควรปูกระเบื้องไปในทิศทางเดียวกัน ตามแนวลูกศร หรือ สัญลักษณ์โลโก้ด้านหลังของกระเบื้องใช้กาวซีเมนต์ผสมน้ำทาบนหลังกระเบื้อง หรือใช้น้ำยาประสานปูนทาบนหลังกระเบื้อง ยกกระเบื้องวางบนปูนที่เตรียมไว้ใช้ค้อนยางเคาะเบาๆ ให้ได้ระดับ
1.9 ทำการจัดวางแผ่นกระเบื้องและแนวรอยต่อให้อยู่ในแนวเดียวกันเว้นร่องยาแนวอย่างน้อย 2-3ซม.(ควรใช้ Spacer อุปกรณ์จัดแนวกระเบื้อง)เมื่อปูทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิ้งให้ปูนเซ็ทตัวประมาณ 72 ชั่วโมง ก่อนทำการยาแนว
1.10หลังปูนเซ็ทตัวให้ทำการยาแนวเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกค้างตามร่องกระเบื้อง โดยทำความสะอาดรอยต่อของกระเบื้องด้วยการใช้เหล็กแหลมหรือแปรงแข็ง ต่อจากนั้นให้ใช้วัสดุยาแนวอัดให้เต็มแน่นเพื่อไม่ให้มีฟองและโพรงอากาศ หากมีเศษยาแนวล้นออกมาให้เช็ดออกด้วยผ้าหมาดๆก่อนที่ปูนยาแนวจะแข็งตัว
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรติดตั้งกระเบื้องโดยวิธีแบบซาลาเปา หรือปูนเปียก เนื้องจากกระเบื้องมีน้ำหนักมากอาจทำให้เกิดการยุบตัวไม่เท่ากัน และ มีโพรงอากาศเป็นช่องว่างใต้พื้นกระเบื้องมีผลทำให้กระเบื้องหลุดร่อน และ แตกง่าย
หมายเหตุ
- ส่วนผสมของปูน MOTAR ซีเมนต์กาว น้ำยาประสานปูน และ วัสดุยาแนว โปรดสอบถามบริษัทผู้ผลิตเพื่อป้องกันการผิดพลาดภายหลัง
- เพื่อรักษาความสวยงามของกระเบื้องหลังทำการติดตั้งเสร็จควรคลุมด้วยพลาสติก หรือ กระดาษลูกฟูก เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและคราบสกปรก
- ก่อนเปิดใช้งานควรทำความสะอาดคราบ(WAX) โดยใช้ผงขัดแวกซ์ ปูนขาว หรือผงยิปซั่ม ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลาง ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรดต่างๆเช่น กรดไฮคลอริก(กรดเกลือ)กรดไนตริก(กรดดินประสิว)กรดซัลฟิวริก(กรดกำมะถัน)กรดไฮฟลูออริก(กรดกัดกระจก)และไม่ควรใช้สารเคมีประเภทไอโซโพรพิล(แอลกอฮอลล์)ในการทำความสะอาด
- การติดตั้งโดยใช้กาวซีเมนต์เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สะดวกรวดเร็ว เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ปรับระดับเรียบร้อยแล้วเพราะกาวซีเมนต์ก็คือส่วนประกบของปูนซีเมนต์ปอร์คแลนด์ ทราย และวัสดุผสมพิเศษอื่นๆ2.1 ตรวจสอบกระเบื้องก่อนทำการปู ตรวจเช็คชนิคของกระเบื้อง สีของกระเบื้องสีเดียวกันหรือไม่ ความโก่งอยู่ในค่าที่สามารถปูได้หรือไม่ หากพบสิ่งที่ผิดปกติให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทันที
2.2 ทำความสะอาดพื้นที่ที่จะทำการปูกระเบื้อง
2.3 ควรปูกระเบื้องเว้นร่องยาแนว 2-3 มม.ตามค่ามาตรฐานของโรงงานผู้ผลิต
2.4 ควรปูกระเบื้องให้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยสังเกตจากลูกศรด้านหลังกระเบื้อง
2.5 ตรวจเช็คระดับพื้นที่ที่จะทำการปูกระเบื้องให้ได้ระดับตามความต้องการ ถ้ามากกว่าหรือน้อยกว่าให้ทำการแก้ไข
2.6 ผสมกาวซีเมนต์ตามส่วนและวิธีของผู้ผลิตกาวซีเมนต์ โดยทั่วไป กาวซีเมนต์ 1 ถุง(15-20kg)ต่อน้ำ 3-5ลิตรแล้วแต่ละตราผลิตภัณฑ์ระบุ
2.7 เทกาวซีเมนต์ลงบนพื้นให้เพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะติดตั้ง ใช้เกรียงหวีฟันปลาปาดให้เป็นร่องให้ทั่วรวมถึงบริเวณหลังแผ่นกระเบื้องที่จะติดตั้งด้วย(เบอร์ของหวี แล้วแต่รุ่น ยี่ห้อ กาวซีเมนต์ที่ใช้)จากนั้นนำกระเบื้องปูลงบนกาวซีเมนต์โดยปูตามแนวลูกศรหลังกระเบื้อง เคาะด้วยค้อนยางเบาๆเพื่อให้ได้ระดับ
2.8 ทำการจัดงานแผ่นกระเบื้องและแนวร่องรอยต่อให้อยู่ในแนวเดียวกัน โดยมีร่องระหว่างรอยต่อ 2-3มม.เมื่อวางแผ่นกระเบื้องเต็มพื้นที่แล้ว ควรปล่อยให้กาวซีเมนต์เซ็ทตัว(ตามกำหนดระยะเวลาของกาวซีเมนต์ที่เลือกใช้)โดยในระหว่างนี้ควรทำความสะอาดกระเบื้องแล้วป้องกันด้วยแผ่นพลาสติก POLYGENE SHEETและกระดาษลูกฟูกหรือไม้อัดตามแต่สภาพหน้างาน เพื่อให้การก่อสร้างส่วนอื่นๆสามารถทำต่อไปได้โดยพื้นผิวไม่เสียหาย
2.9 หลังปูนเซ็ทตัวให้ทำการยาแนวเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกตกค้างตามร่องกระเบื้อง โดยทำความสะอาดรอยต่อของกระเบื้องด้วยการใช้เหล็กแหลมหรือแปรงแข็ง ต่อจากนั้นให้ใช้วัสดุยาแนวอัดให้เต็มแน่นเพื่อไม่ให้มีฟองและโพรงอากาศ หากมีเศษยาแนวล้นออกมาให้เช็ดออกด้วยผ้าหมาดๆก่อนที่จะปูนยาแนวจะแข็งตัว
หมายเหตุ
– การใช้กาวซีเมนต์ควรทำตามวิธีของบริษัท ผู้ผลิตแต่ละยีห้อเท่านั้น โดยสอบถามและศึกษาวิธีใช้ของผู้ผลิตนั้นๆและควรสังเกตุว่ากาวซีเมนต์ที่เลือกใช้หมดอายุหรือยัง โดยปกติกาวซีเมนต์จะมีอายุประมาณ 3 เดือนนับจากวันที่ผลิต การใช้กาวซีเมนต์ที่หมดอายุ อาจจะทำให้กระเบื้องที่ติดตั้งหลุดร่อนได้ในภายหลัง
– ก่อนเปิดใช้งานควรทำความสะอาดคราบ(WAX)โดยใช้ผงขัดแวกซ์ ปูนขาว หรือผงยิปซั่ม ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นกลาง ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรดต่างๆเช่น กรดไฮคลอริก(กรดเกลือ)กรดไนตริก(กรดดินประสิว)กรดซัลฟิวริก(กรดกำมะถัน)กรดไฮฟลูออริก(กรดกัดกระจก)และไม่ควรใช้สารเคมีประเภทไอโซโพรพิล(แอลกอออลล์)ในการทำความสะอาด
วิธีการทำความสะอาดพื้นกระเบื้องพอร์ซเซอร์เลน (ประจำวัน)
- ดูดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวกระเบื้องออกให้สะอาด
- ใช้ม๊อปดันฝุ่น ผ้าม๊อปต้องสะอาด ฉีดน้ำยาดันฝุ่นลงบนผ้าม็อปให้กระจายทั่วผืนผ้าโดยฉีดพอหมาดๆเสร็จแล้วแขวนผึ่งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 3-6 ชั่วโมง หรือฉีดทิ้งไว้ในตอนเย็น เช้าวันรุ่งขึ้นค่อยนำออกมาใช้งานถูพื้น เมื่อถูพื้นแล้วผ้าเริ่มสกปรกควรเปลี่ยนผืนใหม่ทันที ผ้าที่ใช้ถูพื้นควรมีหลายผืนใช้เป็นผ้ารองม๊อปเพื่อความสะดวกในการซักทำความสะอาดผ้า และสามารถเปลี่ยนผ้ารองได้บ่อยตามต้องการ
- หากพบคราบสกปรกที่ไม่สามารถถูดันฝุ่นปกติออกได้ ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำถูเฉพาะจุดที่สกปรก หากเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำเปล่าไม่ออก ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดผสมน้ำตามอัตราส่วนที่ระบุในฉลากสินค้าข้างขวด ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาที่ผสมกับน้ำแล้วเช็ดถูบริเวณที่สกปรก เสร็จแล้วใช้ ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดๆเช็ดน้ำยาออกให้หมด เพื่อไม่ให้คราบน้ำยาเหนียวติดที่พื้น แล้วใช้ผ้าแห้ง เช็ดตามให้แห้งทันที หากพบเห็นคราบสกปรกให้ทำความสะอาดในทันที ไม่ควรปล่อยไว้นาน จะทำให้คราบฝังแน่นทำความสะอาดยากในภายหลัง
- ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของกรดต่าง ๆ เช่น กรดเกลือ กรดดินประสิว กรดกำมะถัน กรดกัดกระจก และสารเคมีประเภทแอลกอฮอล์ ฯลฯ ในการทำความสะอาด
- หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่มีผิวหยาบและแหลมคม เพื่อป้องกันผิวหน้ากระเบื้อง
วิธีทำความสะอาดพื้นกระเบื้องพอร์ซเซอร์เลน (ประจำเดือน)
- ดูดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวกระเบื้องให้สะอาด
- ใช้น้ำยาทำความสะอาดผสมน้ำตามอัตราส่วนที่ระบุในฉลากสินค้าข้างขวด เทน้ำยาที่ผสมน้ำเสร็จแล้วลงในกระบอกฉีดน้ำ จากนั้นฉีดน้ำยาลงบนผิวกระเบื้อง ใช้ผ้า,ฟองน้ำถูทำความสะอาดหรือใช้เครื่องขัดทำความสะอาด เลือกใบขัดแบบอ่อนนุ่มขัดให้ทั่วบริเวณ หากพบคราบสกปรกที่ไม่สามารถขัดออกได้ในครั้งแรกให้ฉีดน้ำยาทิ้งไว้ 20 – 30 นาที ให้น้ำยาละลายคราบฝังแน่นออกก่อน จากนั้นทำการขัดซ้ำอีกครั้งตรงจุดที่สกปรก
- ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดพอหมาด ๆ แล้วเช็ดน้ำยาทำความสะอาดออกจากพื้น จากนั้นใช้น้ำสะอาดล้างพื้นอีกครั้งเพื่อให้น้ำยาออกจากพื้นให้หมดไม่ให้เหลือคราบเหนียวติดที่พื้น
- ใช้ไม้ม็อปยาง รีดน้ำออกจากพื้นให้หมด แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดพื้นให้สะอาด แห้งทันที
หมายเหตุ
- การทำความสะอาดประจำเดือน อาจจะทำทุก 1 เดือน 3 เดือน หรือ 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพหน้างานดูตามความเหมาะสม ว่าควรจะทำภายในกี่เดือน
- ทุกครั้งที่ทำความสะอาดวิธีเปียกด้วยน้ำยา ต้องล้างน้ำยาออกให้หมด แล้วเช็ดพื้นให้แห้งทันที
บริษัท ซีพี เซรามิค จำกัด (สำนักงานใหญ่)
ที่อยู่
47/100 หมู่3 ถนนเอเซีย ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา 13000
อีเมล์
info@cpceramic.com
เบอร์ติดต่อ
035-246938 , 035-246939 , 081-9478708 , 098-2878507